ทางการเกาหลีใต้เผย เกาหลีเหนือได้ลงมือระเบิดสำนักงานประสานงานในเมืองแกซอง ซึ่งอยู่ติดพรมแดนเกาหลีใต้แล้วภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังรัฐบาลเปียงยางเพิ่มคำขู่จะใช้ “มาตรการทางทหาร” ตอบโต้พฤติกรรมยั่วยุของเกาหลีใต้
กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ซึ่งกำกับดูแลความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี แถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือ ได้ทำการระเบิดศูนย์ประสานงานร่วมเกาหลีเหนือ-ใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมเมืองแกซอง ที่ติดกับพรมแดนเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 14.49 น.ตามเวลาท้องถิ่น
สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้ รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า แถลงการณ์นี้มีขึ้นไม่กี่นาทีหลังเกิดเสียงระเบิดและควันโขมงจากเขตนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ประสานงานร่วมดังกล่าว
เหตุระเบิดครั้งนี้มีขึ้นหลังนางคิม โย จอง น้องสาวผู้ทรงอำนาจของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ประกาศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อีกไม่นาน จะได้เห็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ศูนย์ประสานงานร่วมเกาหลีเหนือ-ใต้ ซึ่งไร้ประโยชน์แห่งนี้จะพังราบเป็นหน้ากลอง
คำเตือนของนางคิม โย จอง ที่ว่าหากการส่งใบปลิวโจมตีเกาหลีเหนือจากฝั่งเกาหลีใต้ยังคงเกิดขึ้น เกาหลีใต้จะต้อง “ย้ายออกเป็นการถาวร” จากศูนย์ประสานงานร่วมสองเกาหลีนี้ ได้กลายเป็นจริงแล้ว
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น สำนักงานคณะเสนาธิการทหารแห่งกองทัพประชาชนเกาหลี (เคพีเอ) ของเกาหลีเหนือ ได้เผยแพร่แถลงการณ์ว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ส่อเค้าเลวร้ายลงทุกด้าน จึงจำเป็นต้องยกระดับความพร้อมทางทหารให้อยู่ในระดับสูงสุดครั้งใหม่” ซึ่งนั้นครอบคลุมถึงการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการรุกเข้าไปในพื้นที่ปลอดทหารตามข้อตกลงสองเกาหลี และการแปรสภาพแนวรบแดนหน้าให้กลายเป็นป้อมปราการ” แถลงการณ์กองทัพเกาหลีเหนือระบุ
นับตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือแถลงประณามพฤติกรรมของนักกิจกรรมในเกาหลีใต้อย่างดุเดือดและต่อเนื่องเกี่ยวกับกรณีร่อนใบปลิวที่มีเนื้อหาต่อต้านรัฐบาลเปียงยางบริเวณแนวชายแดน ซึ่งเป็นสิ่งที่บรรดาผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือมักจะทำเป็นประจำ จนกระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลเปียงยางได้ประกาศตัดช่องทางการติดต่อสื่อสารทุกช่องทางกับเกาหลีใต้
ทั้งนี้ บริเวณนิคมอุตสาหกรรมแกซอง เป็นพื้นที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองเกาหลีและเป็นที่ตั้งของศูนย์ประสานงานร่วมเกาหลีเหนือ-ใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตของเกาหลีเหนือ แต่ชาวเกาหลีใต้ที่ได้รับอนุญาตจะสามารถข้ามพรมแดนไปยังบริเวณนิคมได้ด้วยรถยนต์ โดยใช้เวลาประมาณ 10 ถึง 15 นาทีเท่านั้น