ทำความรู้จัก “เต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี” กรรมการผู้จัดการใหญ่ สิงห์ คนใหม่ ทายาทรุ่นที่ 4 บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ที่มีดีกรี ไม่ใช่แค่ นักธุรกิจ

หลังการสูญเสีย จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี หรือ คุณนิดหน่อย “CEO สิงห์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา จากนั้น เป็นที่จับตาว่า ทายาทรุ่นไหน คนไหน จะก้าวขึ้นเป็น CEO สิงห์ คนต่อไป จนล่าสุด เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 ที่ประชุม คณะกรรมการบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มีมติแต่งตั้ง “เต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี” ขึ้นดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ คมชัดลึกออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จัก CEO สิงห์คนใหม่ ซึ่งนับเป็นรุ่นที่ 4

“ภูริต ภิรมย์ภักดี” ชื่อเดิม สันต์ ภิรมย์ภักดี หรือ เต้ เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2520 ปัจจุบันอายุ 45 ปี เป็นทายาทคนโตของตระกูล “ภิรมย์ภักดี” ทายาทรุ่นที่ 4  ของตระกูล ผู้ผลิตเบียร์รายแรกของประเทศไทย เป็นบุตรชายคนโตของ สันติ กับ อรุณี ภิรมย์ภักดี ก่อนที่จะแต่งงานกับ ตอง – นิสามณี ภิรมย์ภักดี มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ เด็กหญิง นิษา ภิรมย์ภักดี และ เด็กชาย ณกฤศ (สิงห์) ภิรมย์ภักดี

ด้านการศึกษา

 “เต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี” ชั้นมัธยมศึกษา เคยเรียนที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากนั้นบินไปสหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาต่อระดับไฮสคูล ที่ Wilbraham Monson Academy ถึงเกรด 12 และจบปริญญาตรีด้าน Business Management จากมหาวิทยาลัย Bentley College เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา 

  

หลังจบการศึกษาด้วยวัย 21 ปี ภูริตเริ่มเข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัวครั้งแรก ในตำแหน่งพนักงานดูแลถังเบียร์ จากนั้นออกไปศึกษาการปรุง และการผลิตเบียร์ Master of Brewing ที่ Doemens Institute of Technology ซึ่งเป็นสถาบันสอนด้านการปรุงเบียร์ที่เก่าแก่ของเยอรมัน และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับระดับโลก ถือเป็น Brewmaster คนที่ 3 ของตระกูลภิรมย์ภักดี ต่อจากคุณปู่ ประจวบ ภิรมย์ภักดี (Brewmaster ไทยคนแรก)  และคุณปิยะ ภิรมย์ภักดี (ลุง)

ภูริต ภิรมย์ภักดี

หลังสำเร็จการศึกษา ภูริต ภิรมย์ภักดี เดินทางกลับประเทศไทยและเลือกฝึกงานกับบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่อย่าง บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย) เพื่อเรียนรู้งานด้านโฆษณาและการตลาด ก่อนจะเข้ามาทำงานด้านการตลาดที่บุญรอดฯ อีกสักระยะ แล้วจึงศึกษาต่อระดับปริญญาโททางธุรกิจ Master of Business Administration และ Marketing and Entrepreneurship Major ณ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

  

ปี 2547 เข้าทำงานบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด อย่างเต็มตัวในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มนอนแอลกอลฮอล์ และถือเป็นเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มีแนวทางการทำงานเชิงรุก กระทั่งปี 2553 ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับสินค้าในเครือของบุญรอดบริวเวอรี่ ในปี 2559 จนถึงปัจจุบัน

นอกจากผลงานที่สร้างความสำเร็จให้กับสินค้าหลัก ได้แก่ เบียร์ โซดา น้ำดื่ม แล้ว ภูริตยังสร้างผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ เช่น สาหร่ายมาชิตะ น้ำแร่เพอร์รา อีกทั้ง ยังเป็น Key man ในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลายให้กับบริษัทฯ อาทิ บริษัท มารุเซ็น ที จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวญี่ปุ่น (Japanese Green Tea) ของประเทศญี่ปุ่นและส่งออกไปในหลายประเทศทั่วโลก, บริษัท ซังโกะ เซกะ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมอบกรอบและ บริษัท เค เจ ซี อินเตอร์ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตสาหร่ายจากประเทศเกาหลี ในปี 2561 ภูริตยังเป็นกำลังหลักในการจัดตั้งบริษัท Singha Ventures  ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุน หรือ CVC (Corporate Venture Capital) ในธุรกิจ Start Up ทั่วโลก โดยรับผิดชอบในด้านการบริหารองค์กร ในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร

เชื่อว่าอีกบทบาท ที่หลายคนน่าจะยังไม่ค่อยมีใครรู้ ภูริตยังมีอีกหนึ่งบทบาทในวงการบันเทิง กับการเป็นสมาชิกวงดนตรี กรุงเทพมาราธอน (Krungthep Marathon) ตำแหน่ง นักร้องนำ พร้อมสมาชิกวงอีก 3 คน ได้แก่ ปาย – กอบชัย ข่วงอารินทร์ (กีตาร์) , นะ – ธนวิตร พงษ์เจริญ (เบส) และ อู๋ – ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์ (กลอง) มีผลงานออกมาแล้วสองอัลบั้ม คืออัลบั้ม The Winner และอัลบั้ม 7912 ภายใต้สังกัด สไปร์ซซี่ ดิสก์ (SPICY DISC) และยังมีผลงานเพลงเป็นที่รู้จักมากมาย เช่น “หากความรักฟังอยู่” เพลงประกอบละคร บันไดดอกรัก (พ.ศ. 2554), “เมื่อไหร่จะได้พบเธอ” เพลงประกอบละคร พรพรหมอลเวง (พ.ศ. 2556), “น้ำตา” เพลงที่ภูริต แต่งเนื้อร้องและขับร้องด้วยตัวเอง เพื่อถ่ายทอดจากความรู้สึก ต่อการจากไปของเพื่อนรุ่นน้อง ประชาธิป มุสิกพงศ์ (สิงห์) มือกีตาร์วง Sqweez Animal (พ.ศ. 2558), เพลง “ปลายรุ้ง” เพลงประกอบละคร ตามรักคืนใจ ที่ได้ร้องร่วมกับน้องนิษา ลูกสาวของภูริต (พ.ศ. 2558) 

ภูริต ภิรมย์ภักดี และ ครอบครัว

นอกจากนี้ ภูริตยังใช้เวลาในวันว่างกับกีฬา Extreme ทั้งการแข่งรถยนต์, Snowboard, มวยไทย ฯลฯ ลงแข่งรถยนต์ในหลายรายการตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน สามารถทำผลงานคว้าแชมป์หลายรายการ อาทิ แชมป์อันดับ 1 ในการแข่งขันรถยนต์ Thailand Grand Touring Championship ประเภททีม Concept Car (พ.ศ. 2541) แชมป์อันดับ 1 ของตารางคะแนนรวมตลอดฤดูกาลในการแข่งขันรถยนต์ GT Asia Series รุ่น GTC (พ.ศ. 2559) รองแชมป์การแข่งขันรถยนต์ Audi LMS Cup สนามบุรีรัมย์ (พ.ศ. 2559) และล่าสุดกับตำแหน่งแชมป์การแข่งขันรถยนต์รายการ Audi R8 LMS Cup ในปี 2017 ที่แข่ง 5 สนามใน 4 ประเทศ

นอกจากเรื่องแข่งรถแล้ว กีฬามวยไทย ก็ยังเป็นอีกกีฬาที่ภูริตหลงใหลมาตั้งแต่เด็ก และยังคงฝึกฝนอยู่ในปัจจุบัน จนถึงขั้นเปิดโรงเรียนมวยไทย RSM Academy และเป็นผู้สนับสนุนให้กับนักมวยไทย บัวขาว บัญชาเมฆ และค่ายมวยบัญชาเมฆ ด้วย   

 ประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งหมด จึงไม่น่าแปลกใจว่า ชื่อของ เต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี  ขึ้นแท่นเป็นกรรมการผู้จัดการ สิงห์ คนใหม่