“สุวัจน์”เตรียมเปิดนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า 24 มกราคมนี้ ที่กทม.- พร้อมเปิดนโยบายพรรค ฉบับเฉพาะโคราช เร็วๆ นี้
วันที่ 23 มกราคม 2566 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดงานตรุษจีนโคราชว่า มั่นใจนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า จะโดนใจพี่น้องประชาชน ในวันอังคารที่ 24 มกราคมนี้ พรรคชาติพัฒนากล้าจะเปิดนโยบายทางด้านเศรษฐกิจนโยบายที่สําคัญ เพราะ 3 ปีที่ผ่านมา เราประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจ แล้วเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าจะเป็นการเลือกตั้งที่พี่น้องประชาชนฝากความหวังให้เป็นทางออกของประเทศโดยเฉพาะในเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจ ฉะนั้น เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองทุกพรรค นักการเมืองทุกท่านที่จะช่วยกันระดมความคิดเห็น ออกแนวนโยบายต่างๆ ที่ทําให้พี่น้องประชาชน มีความคาดหวังที่ดีแล้วนำไปสู่การเลือกตั้งที่เรียบร้อย
ฉะนั้น นโยบายเป็นเรื่องที่สําคัญ พรรคชาติพัฒนากล้าให้ความสําคัญกับเรื่องนี้มาก เรื่องนโยบายเศรษฐกิจ ในวันอังคารที่ 24 มกราคมนี้ เราจะเปิดนโยบายภายใต้ ธีมที่ว่า “งานดี มีเงิน ของไม่แพง” หมายความว่า
นโยบายเศรษฐกิจของเรานั้น จะทําให้เกิดการจ้างงานครั้งใหญ่ และคนที่เคยมีงานแล้วตกงานจะต้องกลับมามีงานที่มากกว่าเดิม แล้วทุกท่านจะต้องกลับมามีงานทํา ธุรกิจมีเงิน และสําคัญที่สุดคือ สินค้าราคาแพงต่างๆนั้น จะต้องถูกแก้ไข เราก็เลยใช้แนวนโยบายที่ว่า “งานดี มีเงิน ของไม่แพง” ซึ่งจะมีการเปิดตัวในวันอังคารนี้ ก็จะมีนโยบายเศรษฐกิจประมาณ 12 ด้าน เช่น นโยบายในเรื่องการที่จะสร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่จะมาหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจที่จะนําไปสู่เม็ดเงิน ประมาณห้าล้านล้านบาท จากเศรษฐกิจใหม่ที่พรรคชาติพัฒนากล้าจะนําเสนอว่าเศรษฐกิจใหม่จะเกิดจากอะไรบ้าง เราเรียกว่า spectrum economy นโยบายในเรื่องการที่จะลดค่าใช้จ่ายกับพี่น้องประชาชนในการที่จะจัดโครงสร้างภาษีใหม่ นโยบายเรื่องสินเชื่อ เพราะว่าในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ทุกคนมีปัญหาเรื่องเครดิต เรื่องอะไร เราก็จะมีมาตรการในการที่จะผ่อนคลายให้ทุกคนกลับมาใช้สินเชื่อกันได้ใหม่
นอกจากนี้ จะมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ระบบดิจิทัล มาปรับปรุงระบบราชการ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็ว โปร่งใส นโยบายในเรื่องของต้องไม่แพงนั้น จะเป็นนโยบายในเรื่องของราคาไฟฟ้ากับราคาน้ํามัน ว่าเรามีแนวคิดยังไงว่าไฟฟ้าต้องถูกกว่านี้ น้ำมันต้องไม่แพงกว่านี้ เพราะถ้าน้ํามันกับไฟฟ้าเป็นต้นทุนที่ทําให้สินค้าต่างๆ มีราคาแพง นโยบายในเรื่องการศึกษา ที่จะไปเพิ่มทักษะให้คนมีโอกาสทํางานมากขึ้น เด็กไทยต้องเรียนรู้หลายภาษา เพื่อที่จะได้เข้าถึงเทคโนโลยี นโยบายในเรื่องการสร้างเกษตรใหม่ ที่จะเป็นแพลตฟอร์มใหม่ทางด้านเศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่ของประเทศ เพราะนี่คือจุดแข็งของเรา นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเถ้าแก่ใหม่ ใครจบอะไร เรียนอะไร หรือมีประสบการณ์อะไร อยากจะเป็นเถ้าแก่ ก็จะมีกองทุนให้ไปเป็นเถ้าแก่ นโยบายในเรื่องการดูแลผู้สูงอายุให้เป็น asset ของประเทศ แล้วก็ออกแบบในเรื่องอารยสถาปัตย์ต่างๆ เพื่อให้เป็นสากล นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างมอเตอร์เวย์ เพราะมอเตอร์เวย์สร้างความปลอดภัย รวดเร็ว และสร้างความสุขในระหว่างครอบครัว ทําให้คนไทยได้เที่ยว นักท่องเที่ยวมาเมืองไทยก็สะดวก เราจะมีนโยบายว่าทําอย่างไรที่จะผลักดันมอเตอร์เวย์ ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และสร้างความเสมอภาคคนไทยทุกคนได้มีโอกาสใช้
และสุดท้ายจะเป็นนโยบายที่สําคัญก็คือ นโยบายทางด้านการท่องเที่ยว ที่จะมาสร้างเงิน สร้างงาน สร้างรายได้ ทำอย่างไรที่เราจะเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของการท่องเที่ยว คือ ถ้าจะพูดถึงการท่องเที่ยวต้องนึกถึงเมืองไทยก่อน ฉะนั้น นโยบายทั้งหมดจะเป็นนโยบายที่นําไปสู่การสร้างงาน นําไปสู่การสร้างเงิน แล้วนําไปสู่การลดค่าครองชีพของไม่แพง
นายสุวัจน์ กล่าวว่าเมื่อเราเปิดนโยบายภาพรวมทั้งประเทศแล้ว เฉพาะพรรคชาติพัฒนากล้าสําหรับโคราช เรามีนโยบายที่ได้รับการออกแบบเอาไว้สําหรับจังหวัดนครราชสีมาโดยเฉพาะ เพราะชาติพัฒนากล้า-โคราช ชาติพัฒนา เราเป็นพรรคการเมืองที่เกิดที่โคราช เรารับใช้พี่น้องประชาชนชาวโคราชมานาน ฉะนั้น เรารับทราบแนวทางที่จะพัฒนา แนวทางที่จะแก้ไขปัญหา และโอกาสใหม่ๆ ที่โคราชจะต้องเดินต่อไปในวันข้างหน้า ฉะนั้น ในวันที่ 24 มกราคมนี้ พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดนโยบายทั้งประเทศ ที่กรุงเทพฯ เสร็จแล้ว พรรคชาติพัฒนากล้าก็จะกลับมาที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อมาเปิดนโยบายของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวโคราชได้สบายใจ ได้มั่นใจกับพรรคชาติพัฒนากล้า
“การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคชาติหน้ากล้ามั่นใจว่านโยบายเศรษฐกิจของเรา ตอบโจทย์ต่อปัญหาของประเทศอย่างแน่นอน”ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า เศรษฐกิจจะดี เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ยังไงก็ต้องมีรัฐบาลใหม่ เพียงแต่ว่ารัฐบาลจะเป็นใคร ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี โครงสร้างของรัฐบาลใหม่ นโยบายใหม่เป็นอย่างไร อันนี้ก็ต้องแล้วแต่พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน แต่อย่างไรก็ต้องได้รัฐบาลใหม่ เพราะว่าหมดเทอม 4 ปีก็เลือกตั้ง ก็ต้องมีรัฐบาลใหม่ ส่วนใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็อยู่ที่การแข่งขัน ทุกคนก็ต้องแสดงความพร้อม แต่ว่าคนที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
พรรคไหนจะชนะก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน แต่ทุกคนก็ต้องหวัง ทุกคนก็ต้องพยายามทําให้ดีที่สุด อย่างพรรคชาติพัฒนากล้า เราก็หวังที่จะได้เสียงเยอะๆ เพื่อเราจะได้มีส่วนสําคัญในการจัดตั้งรัฐบาล หรือ Candidate นายกฯ ทุกคนก็ต้องหวัง และทําให้ดีที่สุด แต่ทุกคนก็ต้องยอมรับว่าผู้ที่จะตัดสินคือพี่น้องประชาชน ฉะนั้น ต้องยอมรับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความคิดอย่างไร กรณี “เศรษฐา ทวีสิน” ซีอีโอแห่งแสนสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป
นายสุวัจน์ กล่าวว่า คุณเศรษฐา ถือว่าเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการเมืองมาก่อนแล้วมาเปิดตัวอย่างนี้ ก็น่าที่จะตีความหมายได้ว่าพร้อมที่จะเข้าสู่การเมืองก็ Welcome ขอให้ประสบความสําเร็จ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าคุณเศรษฐา ถือว่าเป็นนักธุรกิจ เป็นผู้บริหารระดับสูงที่ประสบความสําเร็จในเรื่องของธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เป็นนักธุรกิจที่อินเตอร์ มีความรู้ ความสามารถ การที่เข้าสู่การเมือง ผมคิดว่าสามารถที่จะนําประสบการณ์ความสําเร็จจากภาคธุรกิจมาช่วยประเทศชาติได้ เมื่อมาเป็นนักการเมือง
และอีกอย่างหนึ่ง อันนี้ก็ต้องให้กําลังใจคุณเศรษฐา เพราะว่าวันนี้บางทีเราจะชวนคนมาเล่นการเมืองก็ยาก เพราะการเมืองวันนี้ ภาพลักษณ์ของการเมืองยังไม่สวยสดงดงามเท่าไร และการตรวจสอบก็เข้ม การเสียดสี แรงเสียดทานก็สูง
ฉะนั้น คนที่เข้าสู่การเมืองเพื่อที่จะมารับใช้ประเทศ ถือว่าท่านเสียสละ ที่จะมาช่วยเหลือประเทศชาติ เพราะฉะนั้นโดยส่วนตัว ก็อยากที่จะเชิญชวนผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์เยอะๆ เข้ามาช่วยชาติบ้านเมืองกัน เพราะเรากําลังจะมีการเลือกตั้ง เราต้องการคนรุ่นใหม่ เราต้องการคนมีประสบการณ์ เราต้องการคนมีความรู้ความสามารถมาช่วยกันสร้างสรรค์การเมืองไทย เพื่อให้ได้นักการเมืองที่มีคุณภาพมาช่วยกันทํางาน ในการแก้ไขปัญหาประเทศ