ผมทำได้ ถ้ายุติธรรมกับผม ให้ผมอยู่อย่างน้อย 6 เดือน ผมจะทำอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรม และผมก็มั่นใจว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเห็นอยู่ และจะได้เห็นชัดเจนในกระทรวงยุติธรรม”
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ คนในข่าว FM 100.5 MCOT News Network โดยยอมรับว่า ไม่เคยคิดอยากเปลี่ยนกระทรวง เพราะเป็นนักการเมือง รู้ว่าวันนี้ควรจะทำอะไร เราจะคิดเป็นอื่นไม่ได้ จะทำอะไรให้ประชาชนส่วนใหญ่เป็นสุข ได้ประโยชน์จากการทำงานของเราทั้งทางตรงและทางอ้อม
“ถ้าไปแย่งเพื่อผลประโยชน์เพื่อคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนั้นคือ คิดผิด ผมว่า ไม่ต้องไปสู้รบปรบมือ ไม่ต้องไปวิพากษ์วิจารณ์ดีกว่า ผมไม่มีปัญหา ผมอยู่ตรงนี้ ผมทำงานได้ ถ้าอยากเห็นผมในตำแหน่งอื่น ให้เวลาผมอีก 6 เดือน ผมว่าจะเห็นชัดแล้วว่า สิ่งที่ผมเข้ามาทำตรงนี้ ผมไม่ใช่นักสังคมสงเคราะห์ ผมเป็นสายวิทยาศาสตร์ แต่ผมทำได้ ถ้ายุติธรรมกับผม ให้ผมอยู่อย่างน้อย 6 เดือน ผมจะทำอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรม และผมก็มั่นใจว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเห็นอยู่ และจะได้เห็นชัดเจนในกระทรวงยุติธรรม” นายสมศักดิ์ กล่าว
ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นครรลองประชาธิปไตย หากหยิบเรื่องการปรับเปลี่ยนอย่างเดียว ก็จะทะเลาะกัน มีคนจ้องจะเอาเรื่องแค่ประโยคเดียวไปตีความได้ทั้งหมด พี่น้องประชาชนขาดทุน ตนก็ออกมาร้องขอสมาชิกพรรคว่า จะต้องระมัดระวังเรื่องการสื่อออกไป เพราะเกรงว่าจะเกิดความเข้าใจผิด ทั้งที่ทุกอย่างออกมาดี นายกรัฐมนตรีเหนื่อยมากกับการแก้ปัญหาโควิด และนายกรัฐมนตรีก็ชนะเกือบ 100 เปอเซนต์ ย้ำว่า นายกรัฐมนตรีเข้าใจ ส.ส.และชาวบ้าน หมวดต่อไป คือ ชาวบ้านในชนบทจะได้รับการดูแลจากรัฐบาล สิ่งที่ผู้ใหญ่เข้าใจทั้งหมดก็เกิดจาก ส.ส.ด้วย ครม.ด้วย ตนอยากเห็นประชาชนหรือคนที่เดือดร้อนอยู่มีความสุขมากขึ้น ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรีรอบนี้ จะทำให้การทำงานก้าวหน้ากว่าเดิมหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่พูดเรื่องปรับ ครม. อย่าไปถาม ตนพูดในแนวของการเมืองว่า เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่ต้องทำให้ดี หาคนให้ดี แต่อำนาจเป็นของนายกรัฐมนตรี