ศาล รธน.นัดชี้ชะตา “บิ๊กตู่” พุธนี้ ลงมติเช้า ก่อนนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยบ่าย3
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ รวมทั้งออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5)และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5)ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184วรรคหนึ่ง (3)หรือไม่ ในเวลา 15.00 น.
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย เบื้องต้นขณะนี้ ทางสื่อมวลชนยังไม่ได้รับการประสานหรือแจ้งข้อมูลจากสำนักงานฯแต่อย่างใด แต่โดยธรรมเนียมการปฏิบัติของอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทางสำนักงานฯไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้า-ออก บริเวณด้านหน้าสำนักงานฯ ส่วนบริเวณฝั่งทางเข้าโถงอาคาร A นั้น จะมีการนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณแนวเขตทางเข้าของสำนักงานฯ
ส่วนบุคคลที่จะเข้าฟังคำวินิจฉัยนั้น จะมีจุดรับแลกบัตรและตรวจค้นอาวุธ ซึ่งจะอยู่บริเวณเชิงบันไดทางขึ้นห้องพิจารณาคดี โดยผู้เข้าฟังคำวินิจฉัย จะต้องแลกบัตรและตรวจอาวุธ รวมทั้งฝากสิ่งของ อาทิ กระเป๋า โทรศัพท์มือถือ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ด้วย สำหรับสื่อมวลชนและผู้ที่จะเดินทางมาให้กำลังใจหรือติดตามรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยคดี ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดพื้นที่พร้อมติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดจากห้องพิจารณาคดีลงมายังบริเวณชั้นล่างให้ได้รับฟังด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำร้องดังกล่าวนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่ากรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ถ.วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นบ้านพักของทางราชการทหาร เป็นที่พักอาศัยของตนเองและครอบครัว ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 จนถึงปัจจุบัน โดยไม่เสียค่าเช่าให้กับทางราชการทหาร ทั้งที่เกษียณอายุราชการมาตั้งแต่ 30 กันยายน 2557 อาจเข้าข่ายเป็นการรับประโยชน์ใด ๆ จากหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 186 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 184(3) และเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้นำมาใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่