บก.ทบ. 5 เม.ย.-เกิดเหตุระทึกไฟไหม้อาคารจอดรถ ทบ. เผยเสียหายหลายคัน กำลังพลโกลาหลแห่เคลื่อนย้ายรถ รายงาน ผบ.ทบ. รับทราบ ด้านผกก.สน.นางเลิ้งรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง ขณะที่ โฆษกทบ.ยันเป็นอุบัติเหตุ ระบุไม่มีคนวางเพลิง
เมื่อเวลา 13.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบกลุ่มควัน ที่อาคารจอดรถ ชั้น 7 บี ภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ที่ตั้งอยู่ด้านหลังติดกับฝั่งถ.นครราชสีมา โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสถานีภูเขาทองได้ตรวจสอบพบว่าเป็นเพลิงไหม้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้น้ำภายในตัวอาคารช่วยกันดับเพลิง แต่ไม่สามารถดับได้ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงใช้สารเคมีฉีดเพื่อดับเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที เพลิงจึงสงบลง จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มีรถได้รับความเสียหายจำนวน 5 คัน
ทั้งนี้คาดว่ารถต้นเพลิงมาจากรถกระบะยี่ห้ออีซูซู หมายเลขทะเบียน 8ฎ 8421 กทม. ก่อนที่จะลุกลามไปติดรถที่จอดอยู่ด้านข้างอีก 4 คัน ทำให้ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วย รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเอ็มจีสีเหลือง หมายเลขทะเบียน 5 กภ 2131 กทม. รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าโคโรน่า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 9 ฐ 7479 กทม. รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ หมายเลขทะเบียน ษฐ 3483 กทม. และรถกระบะยี่ห้อมาสด้า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งภายหลังจากเกิดเหตุหัวหน้าส่วนสนับสนุน กองทัพบกได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวต่อพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจด้านนอกบก.ทบ.รับทราบเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผู้กำกับการสน.นางเลิ้ง ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมกับพนักงานสอบสวน โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวนประสานงานกับหัวหน้าส่วนสนับสนุน กองทัพบก เข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดต่อไป ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรในตัวรถยนต์ เนื่องจากการต่อสายไฟไม่ผ่านฟิวส์กับตัวรถ ประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัด จนทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรภายในตัวรถได้ หรืออาจจะเกิดสาเหตุจากการทิ้งพาวเวอร์แบงค์ในรถ
สำหรับบรรยากาศภายในบก.ทบ.นั้นเป็นไปด้วยความชุลมุนวุ่นวายและโกลาหล เนื่องจากกำลังพลส่วนใหญ่จอดรถไว้บนลานจอดรถ ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีรถของกำลังพลจอดเต็มทุกชั้น เมื่อเกิดเหตุกำลังพลต่างก็เป็นห่วงรถของตัวเองจึงรีบไปนำรถออกจากอาคารจอดรถอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งบก.ทบ.ไม่เคยมีเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นมาก่อน
ขณะที่พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดจากการกระทำของบุคคล หรือการวางเพลิงเพื่อสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุรายละเอียดอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและกองพิสูจน์หลักฐาน .