“เทวัญ” สักการะอัฐิย่าโมและย่าบุญเหลือ จี้ถอดรายการ”ช่องส่องผี”ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์หลายจังหวัด พร้อมสั่งทุกวัดทั่วประเทศไม่อนุญาตให้ถ่ายทำรายการอีกต่อไป

เมื่อเช้าวันนี้ (12 กรกฎาคม 2563) จังหวัดนครราชสีมา
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะทำกิจกรรม”เข้าพรรษา ทำความดีถวายเป็นพุทธบูชา” ด้วยการถวายเทียนพรรษา ประจำปีพุทธศักราช 2563

โดยมี นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ,นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา เขต 2 พรรคชาติพัฒนา ,นายธงชัย ลืออดุลย์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพุทธศาสนิกชนในจังหวัดนครราชสีมา พร้อมใจเข้าร่วมเพื่อสืบสานพระพุทธศาสนาและพุทธประเพณีอันดีงาม ในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี พ.ศ.2563 โดยเดินทางไปถวายเทียนพรรษาทั้งหมด 6 วัด ได้แก่ วัดบ้านไร่ วัดหนองหว้า วัดหลักร้อย วัดหนองจะบก วัดช่องอู่ และวัดพระนารายณ์มหาราช

หลังจากนั้น นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายก คุณแม่จรัสพิมพ์ ลิปตพัลลภ พร้อมคณะ
ได้เดินทางไปกราบสักการะท้าวสุรนารี (ย่าโม) คุณย่าบุญเหลือ และท่านท้าวปลัดทองคำ ที่วัดศาลาลอย ท่ามกลางประชาชาจำนวนมากที่เดินทางมากราบสักการะคุณย่าโม

นายเทวัญ กล่าว่า คุณย่าทั้งสองท่านเป็นที่เคารพรักบูชาของชาวโคราช ผมเองและครอบครัวก็ถือโอกาสมากราบคุณย่าอีกครั้งเหมือนที่เราเคยมาเป็นประจำ
ส่วนเรื่องรายการช่องส่องผี ทราบว่าผู้ดำเนินรายการทั้งสามท่านคน คือนายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือ บ๊วย น.ส.สุรประภา หิรัญปุณญะโชติ หรือ อ.เรนนี่ และนายศราวุฒิ วรพัทธ์ทวีโชติ ประสงค์ที่จะมากราบขอขมาคุณย่าก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเมื่อเขาสำนึกผิดแล้วผมว่าชาวโคราชเราก็พร้อมที่จะให้อภัยกับเรื่องนี้ แต่ในเรื่องกระบวนการของกฎหมายก็ต้องว่ากันไปตามนั้นต้องไปดูกันในเรื่องข้อกฎหมายและทราบมาว่ารายการนี้ยังไปบิดเบือนประวัติศาสของพระเจ้าตากสินมหาราช และไปที่ระยองของท่านสุนทรภู่ด้วย

ประเด็นนี้ผมว่าต้องมีหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็นกสทช.หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเข้าไปดูเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก ใครจะทำรายการอะไรก็แล้วแต่ถ้าไปบิดเบือนประวัติศาสตร์แล้วไม่มีใครดำเนินการเรื่องนี้ผมว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะเป็นเรื่องสำคัญ
โดยเฉพาะประเด็นเมื่อทำผิดแล้วหยุดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แต่ย้ายไปออกอากาศทางช่องยูทูปหรือโซเชี่ยลมีเดียช่องทางอื่นก็ตเองให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบด้วยว่ากระทำได้หรือไม่อย่างไร

ในส่วนของสำนักพุทธศาสนาเราได้มีจดหมายไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกสทช.ว่าทางเรายินดีให้ความร่วมมือและได้ให้สำนักพุทธศาสนาทุกจังหวัดประสานไปกับทุกวัดว่าถ้ามีกรณีรายการขอมาถ่ายทำที่วัดรายการอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับทัศนะแบบนี้ คือ ลบหลู่ บิดเบือนประวัติศาสตร์ขอให้พิจารณาไม่อนุญาต แต่ถ้าเป็นรายการลักษณะส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงศาสนา ประวัติศาสตร์ก็ยินดี

ในเรื่องข้อกฎหมายผมคิดว่าใครทำผิดก็ต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมายแต่เรื่องนี้เราได้ประสานไปยังกรมศิลปกรด้วย เค้าเป็นคนดูแลหอประวัติของประเทศไทยแล้วทางจังหวัดได้ประสานไปทางญาติของคุณย่าโม และมีกำนันผู้ใหญ่บ้านผู้นำท้องถิ่นหลายคนที่ไปแจ้งความร้องทุกข์ก็ต้องไปดูรายละเอียดตรงนั้น
“วันนี้ถ้าเค้ามีความประสงค์ที่จะมาขอขมาแสดงว่าเค้ารู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดซึ่งชาวโคราชก็รู้สึกว่าเค้าสำนึกผิดแล้ว ส่วนเรื่องขบวนการของข้อกฎหมายก็ต้องว่ากันไป”
รัฐมนตรีเทวัญ กล่าวและย้ำว่า วันนี้ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนคงจะทราบแล้วว่า รายการแบบนี้เหมาะสมหรือไม่ จะดูรายการอะไรตัองวิเคราะห์พิจารณา โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อ ความศรัทธาของคนไทย เป็นสิ่งสำคัญ